วันพฤหัสบดีที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2553

ขายสาหร่าย ความรู้


ปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลต่อพรรณไม้น้ำ
1. คุณภาพน้ำ มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตรูปร่าง และสีสันของพรรณไม้น้ำมาก ซึ่งได้แก่ pH ควรจะอยู่ประมาณ 6.4-7.5 ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ควรอยู่ประมาณ 5-15 มิลลิกรัม/ลิตร อุณหภูมิน้ำควรอยู่ประมาณ 22-30 OC
2. แสงสว่างมีความสำคัญต่อการสังเคราะห์แสงและการระเหยของน้ำมาก เพราะว่าพรรณไม้น้ำบางชนิดต้องการแสงปริมาณมากในการสร้างแร่ธาตุอาหารและ เจริญเติบโต บางชนิดต้องการน้อย บางชนิดต้องการแสงปานกลาง เพื่อความเหมาะสมในการสร้างแร่ธาตุอาหารนั้นเอง
3. ความชื้น มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของพรรณไม้น้ำทุกชนิด แต่ปริมาณความต้องการจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับพรรณไม้น้ำชนิดนั้น ๆ ด้วย

รูปแบบการเพาะขยายพรรณไม้น้ำสวยงาม แบ่งออกเป็น 2 แบบดังนี้
1. การเพาะขยายพันธุ์ในแบบดั้งเดิม คือ การปลูกพรรณไม้น้ำในแปลงตื้น ๆ เช่น บ่อซีเมนต์ บ่ออิฐบล๊อก อ่างหรือบ่อน้ำในที่โล่งแจ้ง หรืออาจมีตาข่ายคลุมพรางแสง ซึ่งแบ่งออกได้ดังนี้
1.1 การปลูกแบบครึ่งบกครึ่งน้ำ เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับการเพาะขยายพันธุ์พรรณไม้น้ำสวยงามประเภทพืชครึ่งบก ครึ่งน้ำ และประเภทบายน้ำ เช่น สกุล (xytocoryne) (คริบ), Echinodorus (คมซอล), Alternanthera (ผักเป็ดน้ำ), Ammania (แอมมาเนีย), Anubias (อนูเนียส) หรือ Microsorium (รากคำใบยาว) เป็นต้น
การเตรียมแปลงปลูก แปลงปลูกสามารถก่อสร้างด้วยซิเมนต์หรืออิฐบล๊อค โดยก่อเป็นบ่อเตี้ย ๆ หรืออาจก่อด้วยกระบะไม้แล้วปูด้วยแผ่นพลาสติก ยกสูงจากพื้นเล็กน้อยเพื่อสะดวกต่อการทำงานอาจมีตาข่ายคลุมหลังคาเพื่อพราง แสงแดดประมาณ 40-60% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของพรรณไม้น้ำแต่ละชนิดด้วย สำหรับวัสดุลูกที่ใช้ใส่ในแปลงเพาะนั้น ได้แก่ ดินร่วนปนเหนียว หรือกรวดขนาดประมาณ 2-3 มิลลิเมตร ล้างให้สะอาดก่อนใส่ในแปลง
ขั้นตอนการ ปลูก ก่อนทำการปลูกควรมีการคัดเลือกตันพันธุ์จากต้นพ่อแม่พันธุ์ โดยคัดเลือกเอาเฉพาะต้นพันธุ์ที่มีความสมบูรณ์ทั้งทางด้านลักษณะรูปร่างและ สีสันที่สวยงาม ส่วนต่าง ๆ ที่สามารถปลูกเพื่อขยายพันธุ์ ได้แก่ ต้นกล้าจาการเพาะเมล็ด ยอดอ่อนจากลำตัน ต้นอ่อนบนด้านช่อดอก ไหล เว้า หรือ หน่อ เป็นต้น หากเลือกยอดอ่อนจากลำต้นควรเด็ดใบที่ข้อล่างสุดออกพื่อให้เกิดรากที่ข้อ หากไม่เด็ดยอดจะทำให้ข้อที่อยู่ใต้ดินหรือใต้กรวดเน่า
การปลูกหรือการปัก ชำ ควรทำในช่วงเย็นประมาณ 17.00 -18.30 น. เพื่อป้องกันไม่ให้สูญเสียน้ำมากจนเกินไป และช่วยทำให้ต้นใหม่ที่จะเกิดขึ้นนั้นฟื้นตัวได้เร็ว ในระยะแรก ๆ ของการปลูก ควรมีวัสดุบังแสงแดดและทำการรดน้ำวันละหลาย ๆ ครั้ง จนกระทั้งพันธุ์ใหม่ออกรากและตั้งตัวได้
การดูแล หลังจากที่ต้นพันธุ์ตั้งตัวได้แล้ว ควรมีการใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยวิทยาศาสตร์ชนิดละลายน้ำสูตร 25-5-5 ละลายน้ำในอัตราส่วนปุ๋ยประมาณ 10-25 gm ต่อน้ำ 20 ลิตร แล้วนำโปรดให้ทั่วทั้งแปลง เพื่อช่วยเร่งการเจริญเติบโตให้แก่ต้นพันธุ์
1.2 การปลูกแบบใต้น้ำ เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับการขยายพันธุ์พรรณไม้สวยงามประเภทพืชใต้ผิวน้ำ และประเภทพืชท้องน้ำ เช่น สกุล Ceratophyllum. Sp. (สาหร่ายพุงชะโด) Hydrilla Verticllata (สาหร่ายหางกระรอก) Limnophila heterophylla heterophylla (สาหร่ายฉัตร) Barclay longfolia (ไส้ปลาไหล) และ Comb asp. (สาหร่ายคาบอมบ้า) เป็นต้น
การเตรียมแปลงปลูก ให้เตรียมในลักษณะแบบเดียวกับการปลูกแบบครึ่งบกครึ่งน้ำ แต่ควรทำการเติมน้ำสะอาดลงในแปลงปลูกให้สูงประมาณ 30 cm ซึ่งเป็นระดับความสูงที่วัดจากกรวด
ขั้นตอนการปลูกและการดูแล จะปฏิบัติเช่นเดียวกับการปลูกแบบครึ่งบกครึ่งน้ำ แต่ควรทำการดูแลโดยใส่ปุ๋ย NPK ชนิดละลายน้ำลิตร 25-5-5 หรือ 30-20-10 ในอัตรา 5-15 gm ต่อน้ำ 1,000 ลิตรา เมื่อต้นพรรณไม้น้ำสวยงามเจริญเติบโตสมบูรณ์เต็มที่แล้วก็สามารถเก็บเกี่ยว ผลผลิตไปจำหน่ายได้เลย
1.3 การปักชำพรรณไม้น้ำสวยงามก่อนการจำหน่าย
วิธีนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "การปักชำใต้น้ำ" ถือเป็นเทคนิคที่ต้องนำไปใช้กับการเพาะขยายพันธุ์พรรณไม้น้ำสวยงามแบบครึ่ง บกครึ่งน้ำ ทั้งนี้เพื่อให้ลำต้น ใบ และราก มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างและสีสัน ให้มีความอ่อนซ้อย และสวยงามมากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยทำให้พรรณไม้น้ำสวยงามเจริญเติบโตได้ดี เมื่อนำไปปลูกประดับในตู้กระจกด้วย โดยมีขั้นตอนปฏิบัติดังนี้
การเตรียมบ่อ
- ควรเลือกใช้บ่อซีเมนต์เพราะสามารถกัดเก็บน้ำได้ดี โดยสร้างบ่อให้มีความสูงประมาณ 0.8-1.0 เมตร
- ใส่กรวดล้างสะอาด ขนาดประมาณ 2-3 มิลลิเมตรลงในบ่อ ให้มีความสูงประมาณ 4-5 นิ้ว
- เต็มน้ำสะอาดลงในบ่อให้มีความสูง ประมาณ 30 cm โดยวัดระดับความสูงจากกรวด
การปลูกหรือปักชำ
- ทำการตัดยอดจากต้นที่ต้องการ โดยติดให้มีข้อติดมาประมาณ 5-6 ข้อ
- เด็ดใบข้อที่ 1-2 ออก เพื่อให้เกิดรากที่ข้อ ถ้าไม่เด็ดจะทำให้ข้อใต้ดินหรือกรวดเน่า
- ปักชำยอดพรรณไม้น้ำสวยงามลงในกรวด ควรเว้นระยะระหว่างต้นและแถวให้ห่างกันพอประมาณ เพื่อให้มีเนื้อที่ในการเจริญเติบโตของใบ จากนั้นเติมน้ำสะอาดเพิ่มอีกโดยเติมให้มีความสูงวัดจากระดับกรวดประมาณ 50-60 cm
- ทำการถ่ายน้ำอย่างน้ำ 30% สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อทำให้น้ำยังคงความใสสะอาดและพรรณไม้น้ำสวยงามได้รับแร่ธาตุอาหารอื่น ๆ ที่ไม่มีในปุ๋ยแต่มีในน้ำ
- ใส่ปุ๋ยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ได้แก่ปุ๋ย NPK ชนิดละลายน้ำสูตร 25-5-5 หรือ 30-20-10 ในอัตรา 5-15 gm ต่อน้ำ 1,000 ลิตร (ควรใส่หลังจากเติมน้ำครั้งใหม่แล้วประมาณ 2-3 วัน)
- เติมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อให้พืชได้นำไปใช้ประโยชน์ในกระบวนการสังเคราะห์แสง โดยการเติมลงไปในกล่องดักคาร์บอนไดออกไซด์ที่ติดตั้งไว้ภายในบ่อ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะค่อย ๆ ละลายลงไปในน้ำจนกว่าพืชจะใช้จนหมด ซึ่งต้องคอยสังเกตด้วยว่า หากมีน้ำเข้าไปแทนที่ก๊าซในกล่อง ให้ทำการเติมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มเข้าไปใหม่อีก
- ประมาณ 7-15 วัน พรรณไม้น้ำในบ่อปักชำจะเจริญเติบโตทั้งระบบราก ลำต้น ใบ และสีสันสวยงามขึ้น จึงสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตไปจำหน่ายได้
2. การเพาะขยายพันธุ์แบบพัฒนา
เป็นการปลูกพรรณไม้น้ำสวยงามในโรงเรือน (green house) มีการควบคุมความชื้น แสงสว่าง และการให้ปุ๋ยโดยอัตโนมัติ วัสดุปลูกเป็นแร่ใยหินในกระถางพลาสติกขนาดเล็ก (Rock wool) หรืออาจจะไม่มีการใช้วัสดุปลูก ซึ่งการเพาะขยายพันธุ์แบบพัฒนานี้จะมีข้อดีตรงสามารถผลิตพรรณไม้น้ำสวยงาม ได้ในปริมาณมาก สามารถกำหนดระยะเวลาเก็บเกี่ยวที่แน่นอนได้ และผลผลิตที่ได้จะมีลักษณะที่สวยงามสมบูรณ์ แต่มีข้อเสียตรงที่ต้องใช้เงินลงทุนเริ่มแรกค่อนข้างสูง

วันพุธที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2553

วันอังคารที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2553

เสื้อผ้าสวยๆ ราคาส่ง ติดต่อ0819392941

ลูกเทนนิสใหม่ ราคาส่ง


ลูกเทนนิสคุณภาพดี dunlop fort elite ราคา 2900 บาทต่อ 1 ลัง